คอมพิวเตอร์รีสตาทตัวเองบ่อยๆ สาเหตุเป็นเพราะอะไรได้บ้าง

คอมพิวเตอร์รีสตาทตัวเองบ่อยๆ สาเหตุเป็นเพราะอะไรได้บ้างครับ พอจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้างครับ

อาการนี้ มัน เป็นได้หลายสาเหตุ มากกกกกก....กก

ลอง นี่ดูครับ อาการรักษาแบบครอบจักรวาล


ก่อนจะลงไม้ลงมือ เราก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมกันซะก่อน- เครื่องเป่าลม หรือ ปั๊มลมพร้อมปืนฉีดลม ไว้ฉีดลม ( ไม่มีก็ไปที่ร้านซ่อมมอร์เตอร์ไซค์เลย )- น้ำยา คอนแท็คคลีนเนอร์ ไปหาซื้อได้ตาม ร้านฮาร์ดแวร์ ขอยก่อสร้าง ทั่วๆไป ป๋องละ 100- ยางลบ ดีๆ ซักก้อน- ซิลิโคนเงิน หรือ Heat Sink Compound มีราคาตั้งแต่ 30 - หลายร้อยบาท (อันนี้เลือกเอาเองนะ ถ้าใช้ของดีมียี่ห้อมันก็จะดีกว่าใช้ของถูกๆ อ่ะนะเป็นเรื่องธรรมดา )- ฝีมือ (อันนี้สำคัญมาก ถ้าไม่มีทักษะทางด้านช่างมาก่อน อย่าเสี่ยงทำเอง เพราะมันจะพังได้ ) ควรให้เพื่อน หรือ คนที่เป็นงานหน่อย มาช่วย เทรน เราอย่างใกล้ชิด .....หึหึ


ก่อนลงมือให้นึกดูดีดีว่า เราเคยโดนไฟดูด จี๊ดๆ เมื่อเราไปถูกตัวตู้เคส ตอนที่มันทำงานอยู่บ้างมั้ย หรือให้แน่ก็ใช้มิเตอร์วัดดูว่ามีการรั่วลงกราวด์ จาก พาวเวอร์ซัปพราย หรือปล่าว แต่ปรกติมันก็จะมี อยู่หนืดๆ จี๊ดๆ แต่ถ้า ถึงขนาดสดุ้งสุดตัว อันนี้ น่าจะ ไม่สวยละ อันนี้ต้องรีบเปลี่ยน พาวเวอร์ซัปพราย โดยด่วน ขอแนะนำว่าอย่าเอาไปซ่อม ถ้า.ไม่ใช่.ของดีราคาแพงซื้อใหม่ไปเลยคุ้มกว่า ได้รุ่นใหม่ๆจ่ายไฟนิ่งๆ เครื่องเรามันจะได้มีเรี่ยวแรง มากขึ้น....หึหึสาเหตุที่ทำให้เครื่องช้ามากผิกปรกติ รวน บ่อยๆ อยู่ดีๆก็ดับไปเอง อันนี้หล่ะสาเหตุใหญ่เลย


วิธีวัด ปรับมิเตอร์ไปที่ วัด โอห์ม ปลายด้านหนึ่งจิ้มไปที่ตัวโครงของตู้เคสด้านใน ที่เป็นเนื้อโลหะล้วนๆนะ (ไม่ใช่ตรงที่มีสีพ่นไว้) ปลายอิกด้าน จี้ที่ขั้วของช่องเสียบสายไฟด้านหลังตัว พาวเวอร์ซัปพราย ให้ดึงสายไฟออกจากตัว พาวเวอร์ซับพรายแล้ว จี้ทีละขั้ว ดูว่าเข็ม หรือตัวเลขของมิเตอร์มันกระดิกขึ้นหรือไม่ ถ้าขั้วใดขั้วหนึ่งจี้แล้ว มันขึ้น ก็แสดงว่า มีการรั่งลงกราวด์ แน่นอน โยนทิ้ง ซื้อของใหม่ใส่ดีกว่า เอาที่ วัตต์ มันมากกว่าของเก่าได้ยิ่งดีเลย

เมื่อเราแน่ใจแล้วว่า แหล่งกำเนิดพลังงานหลักของเครื่องเรา อยู่ในสภาพดี หรือเปลี่นใหม่แล้วก็มาถึง ขั้นตอนการลงมือ ทำพิธี ปลุกผี เครื่องเก่า ของเราบ้าง


1. เปิดฝาเครื่องออกมา เอาสายฉีดลมหรือ เครื่องเป่าลม เป่าฝุ่นออกให้หมดทุกซอกทุกมุม

2. ถอด ฮีตชิงค์ CPU ออกมา แล้วก็ถอด CPU ออกมาจากซ็อคเก็ต ซะก่อน แล้ว เอาน้ำยา คอนแทคคลีนเนอร์ ฉีดล้างคราบ ซิลิโคน เก่า ออกจากหน้า กระดองของ CPU ให้หมด เอาผ้าแห้ง สะอาด หรือ กระดาษทิชชู่ เช็ดคราบออกให้หมด

3. ถอด แรม ออกมา เอายางลบถูขา เหลืองๆของมันให้ เงา แวววาว ทั้ง 2 ด้าน

4. ถอดการ์ดจอ ( ถ้ามี ) ออกมาจาก สล๊อต ของมัน แล้วทำการ แกะ ฮีตซิงค์ ของมันออก เวลาแกะ ถ้า ซิลิโคนมันแห้งไปแล้ว จะแกะออกยากมากนะ ต้องระวังให้ดี หรือก่อนแกะ เอาน้ำยา คอนแท็คคลีนเนอร์ ฉีดเข้าไปที่รอยต่อ ระหว่าง หน้าสัมผัสของ GPU กับตัว หน้าสัมผัสของ ฮีตซิงค์ ที่มันดูดติดกันซะก่อน นะ ฉีดมันเข้าไป เย้อๆ ทิ้งไว้สัก 5 นาที มันจะหลุดออกได้ง่ายขึ้น เมื่อมันหลุดออกมาแล้วก็ให้จัดการฉีดน้ำยาล้างคราบซิลิโคน ออกให้หมด ( เหมือนกับที่ทำให้ CPU นั้นหล่ะ ) อย่าลืมล้างหน้าสัมผัสของ ฮีตซิงค์ นะ ทั้งของ CPU และ การ์ดจอนั่นหล่ะ เสร็จแล้วก็เอายางลบถูขามันด้วยเหมือนของ แรม อ่ะนะ

5. เหมือนในข้อ 2 และ 4 แต่ทีนี้เราจะทำกับ ตัวชิปเซ็ต ซึ่งมันจะต้องถอดเมนบอร์ด ออก มาด้วย เอาล่ะซิ ทีนี้ งานช้างเลย สายอะไรต่อมิอะไร เย้อแยะไปหมด ยุ่งตายห่าเลยมิง ให้เราทำการ สเก็ต ลงในกระดาษ ว่า สายพวงไหนเสียบเข้ากับอะไรในเมนบอร์ดบ้าง ถ้ากลัวว่าจะจำไม่ได้ เน้นหลักๆก็มี สายสวิชท์พาวเวอร์ สายไฟหลอด LED power สาย ไฟ LED HDD / สายปุ่มรีเซ็ต ( ถ้ามี ) สาย USB อันนี้ง่ายหน่อยมันจะมีหัวเสียบเป็นชุด มีสายอีกพวงที่พลาดกันบ่อย คือ Front Audio อันนี้ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ มันจะเป็นหัวเสียบ เป็นชุดแบบ สาย USB แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ มันจะแยกหัวสายเป็นอันเล้กๆ อันนี้ยาก ต้อง จดให้ดีว่า หัวสายไหน เสียบเข็มไหนแน่ ที่เหลือก็เป็นพวกสายไฟเลี้ยงต่างๆ จากตัว พาวเวอร์ซัปพราย ซึ่งหลักๆ จะมี สายไฟเลี้ยง CPU / หัวเสียบใหญ่ ไฟเลี้ยง เมนบอร์ด สายไฟเลี้ยง อุปกรณ์ต่างๆเช่นพวก HDD / เครื่องเล่น CD - DVD / สายเสียบไฟเลี้ยง เพิ่มโดยตรงที่ตัว การ์ดจอ เป็นต้น อันนี้ไม่น่าจะเสียบผิด เพราะมันเป็นหัว คนละแบบ กันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนเสียบกลับเข้าไป ต้องครบ เท่านั้นเอง แต่ว่าถ้าไม่อยากถอดเมนบอร์ดออกมาก็ไม่เป็นไร ก็ให้พยามดึง ฮีตซิงค์ ของตัวชิปเซ็ต ออกมาให้ได้ ระวังด้วยเพราะถ้าไม่เคยถอดออกมาเลยมันจะแน่นมาก ให้เอามือจับแล้วออกแรงบิดขยับ หมุนซ้าย-ขวา เมื่อมันเริ่มหมุนตามมือเราแล้ว ก็ดึงหัวสลักยึด มันออก ออกแรงดึงหัวมันขึ้นมา ตรงๆ เท่านี้ก็เรียบร้อย(แต่ว่าถ้าถอด เมนบอร์ด ออกมาได้ จะดีกว่านะ )

6. ตัวแผงเมนบอร์ดที่ถอดออกมาแล้วก็เอาน้ำยามาฉีดตามร่อง รู ของซ็อคเก็ต หรือ สล๊อต รูเสียบ สายต่างๆ เท่าที่มองเห็น ฉีดมันเข้าไป ให้หมดกระป๋องเลย 55+ แล้วก็เอาลมฉีดซ้ำอิกทีให้น้ำยา มันกระเด็นออกไปจนแห้งหมดก็พอ หรือใครอยากจะล้างมันให้เอี่ยมกว่านี้ ก็ให้ไปซื้อ น้ำมันก๊าซ เอามา เทใส่กาละมังเล็กๆ แล้วหาแปลงสีฟันเก่าๆ มาขัดๆ ถูๆ คราบเหนียวของฝุ่น ที่มันจับอยู่ตามซอกหลืบ หรือ จับอยู่ตามขาของพวก อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ตัวจิ๋วๆ บนเมนบอร์ดของเรา รีบล้าง รีบเช็ด และเอา ลมเป่า ให้แห้งสนิด ทันที ห้ามเอาไปแช่น้ำมันก๊าซไว้นานๆ ทีนี้แผง เมนบอร์ด ของเราก็จะเอี่ยมอ่อง เหมือนซื้อมาใหม่ แล้ว อ้อเกือบลืม ไหนๆก็ซื้อน้ำมันมาแล้ว ก็เอา ตัวการ์ดจอที่เราถอด พัดลม ฮีตซิงค์ มันออกมาแล้ว ลงไปล้างด้วยเลย จะดีมาก จะได้ไม่เสียเที่ยวนะ

7. ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอน ประกอบ อุปกรณ์ให้เข้าที่เดิมของมันบ้าง ก่อนอื่น ต้องอย่าลืม ทาซิลิโคนเงิน เพราะว่าถ้าไม่ทา มีหวัง เปิดเครื่องไม่ติดแน่ โดยให้หยดซิลิโคนลงไปตรงกลาง กระดองของ CPU เอาแค่เล็กน้อยพอ ประมาณ 2-3 หัวไม้ขีด แล้วเอานิ้วมือละเลง วนๆ ออกไปทางด้านขอบ จนทั่ว หน้าของมัน เสร็จแล้วก็ทำเหมือนกันนี้กับ หน้าสัมผัสของ ฮีตซิงค์ ที่ประกบกับหน้าของ CPU ด้วย เมื่อเราทำทั้ง 2 ด้าน เวลาประกบกันแล้ว แนื้อของซิลิโคน มันจะเต็มหน้าสัมผัสดีกว่า การที่เราทา ที่กระดองของ CPU อย่างเดียว แล้วก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ ทำกับ GPU ของการ์ดจอ และ ตัว ชิปเซ็ต บนเมนบอร์ดด้วย เหมือนกัน ข้อควรระวังก็คือ อย่าทา ซิลิโคน จนหนา หรือมากเกินไปเด็ดขาด เพราะซิลิโคนที่หนาเกินไป มันจะกลายเป็น ฉนวน กันความร้องไปเอง ทำให้ความร้อนที่เกิดในตัว ชิป ไม่ถูกถ่ายเทไปยัง ฮีตซิงค์ มันก็จะทำให้ ชิป ของเราสุกได้ เวลาเราใส่ ฮีตซิงค์ ของ CPU ต้องดูให้ แน่ใจว่า ขายึดทั้ง 4 ด้านของมัน ลงรูแน่นแล้ว โดยเฉพาะ ตัวพัดลมฮีตซิงค์ ของ Intel แบบ ซ็อคเก็ต 775 ต้องระวัง เพราะถ้ากดไม่เข้าล๊อคของมัน หรือออกแรงกดไม่แน่นพอ มันจะเด้ง หลุด ออกมาได้เฉยๆ เช็คให้แน่ใจโดยเอามือจับที่ตัว ฮีตชิงค์ แล้วออกแรง ขยับ ดูถ้ามันไม่หลุด เด้งออกมา ก็ใช้ได้เลย

8. ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากประกอบ เมนบอร์ดเข้าที่ เสียบสายไฟให้ครบ แล้วถูกต้องเท่านั้น
ทีนี้เราก็จะได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมือนซื้อมาใหม่ๆ และพร้อมที่จะลง วินโดว์ ใหม่แล้วล่ะครับ ถ้าได้แผ่นวินโดว์ที่สมบูรณ์ และทำตามขั้นตอน ด้านบนทั้งหมดได้ครบถ้วนดี รับรองว่า เครื่องมันจะเร็วเหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ๆเลยจ๊าา

10 ความคิดเห็น:

Admin กล่าวว่า...

40%เป็นที่ram ลองเอายางลบมาลบบนทองแดง
25%เป็นที่power supply เปลี่ยน
15% เป้นที่hd หรือ สายต่อhd ลองลงใหม่
15% เป้นที่ mainboard มันบวม
5% เป้นที่cpu

Admin กล่าวว่า...

cpu ร้อนจัดเป่าครับ ไม่ได้ทาซิลิโคนเป่าอ่า

Admin กล่าวว่า...

ผมว่าวินโดว์ไม่สมบูรณ์ ลงวินโดว์ใหม่ดีกว่าครับ อาจติดไวรัส ก่อนลงวินโดว์ใหม่ อะไรที่ต้องการเก็บก็เก็บไว้ก่อนนะครับ ถ้าฮาร์ดดิส มีหลายไดร์ ก๊อบปี้ไว้ไดร์ อื่นที่ไม่ไช่ ไดร์ ซี
สาเหตุ ติดไวรัส วินโดว์มีปัญหา แนะนำ ลงวินโดว์ใหม่ ดีกว่า ถ้าไม่ได้แบ่ง พาทิชั่น ก็แบ่งด้วย นะเวลามีงานก็เก็บไว้ไดร์ ดี เวลา ทำวินโดว์ใหม่งานที่เก็บไว้จะได้ไม่หาย แต่ เวลาเซฟงานก็ต้องไป ไดร์ ดี นะครับ

Admin กล่าวว่า...

1.ไฟจ่ายไม่พอ จ่ายไม่นิ่ง เพราะไฟเก่า /มีอุปกรณ์ต่อพ่วงเพียบ เช่นซีดีรอมหลายตัว อาร์ดดิสก์หลายตัว การ์ดจอใหม่กินไฟมาก
2.มีฝุ่นจับตามเมนบอร์ด ซิ้งพัดลมซีพียู ซิ้งการ์ดจอ แรม สะสมความร้อนไว้ จนคอมพ์ต้องตัดการทำงาน
3.ซีพียู มีปัญหา เช่น ผ่านการโอเวอร์คล็อคมาเกินอัตรา ซีพียูร้อนจัดเพราะซิ้งไม่แนบ หรือซีลิโคนแห้ง
4.แรม มีปัญหา
5.การ์ดจอ มีปัญหา
6.ซอฟท์แวร์ เช่นไดร์เวอร์การ์ดจอไม่ตรง มีโปรแกรมซอฟท์แวร์บางตัวอยู่ร่วมกันไม่ได้
7.ไวรัส/ สปายแวร์ มัลแวร์ ตัวเจ้าปัญหาใหญ่
8.สิ่งแวดล้อมอีกหลายอย่าง เช่น สายไฟทั้งปลายสายต้นสายไม่แน่น เล็กเกินไป ปลั๊กหลวม ปลั๊กถูกๆ ใช้ไฟร่วมกับ ทีวี เตารีด ไมโครเวฟ ตู้เย็น

บอกสเป็คเครื่อง และ วินโดว์
ซอฟท์แวร์ ต่าง ๆ ที่ลงทีหลังแล้วจึงเกิดปัญหา ลองทบทวนดูว่า
ไปทำอะไรมาก่อนตามลำดับ จึงได้เกิดอาการรีสตาร์ทตัวเองในช่วงหลัง ค่อยๆ ไปแก้เรื่องนั้น

Admin กล่าวว่า...

หาพัดลมมาเป่าครับ ถ้าเครื่อง ร้อนมันจัดตัดระบบเพื่อความปลอดถัยของอุปกรณ์ต่าง
ถ้าหากเป็นที่อุปกรณ์ตัวอื่น มันน่าจะเปิดไม่ติดตั้งแต่ทีแรกเลยครับ

Admin กล่าวว่า...

ส่วนใหญ่เกิดจากวินโดว์ลงไม่สมบูรณ์ครับ

Admin กล่าวว่า...

โดนไวรัสหรือป่าวคับ ก็พอจะมีทางแก้อยู่นะ
เขาไปที่ Run แล้ว พิมพ์ cmd พอขึ้นมาแล้ว ให้พิมพ์ shutdown -a ลงไปแล้ว Enter คับ
ก็พอใช้ได้นะ เพื่อไม่ให้เครื่อง restart ตัวเอง คับ ในตอนที่เราใช้คอมอยู่

Admin กล่าวว่า...

ผมว่า

Supply ก็ ไม่น่านะครับ ถ้าใช่ ก็จะดับไปเลย และมันจะมีเสียคล้ายๆไฟช็อตอ่าครับ

ถ้าให้แน่ใจ ลองปิดฝาแล้วเปิดคอมดู สังเกตุ นะครับ อาจมี hardware เสียตัวใดตัวหนึ่ง
---------------
ลองไป bios นานๆแปปน๊าครับ ถ้าไม่รี ก็ไวรัสชัวร์
ไวรัส น่าจะเป็นไวรัสพวก worm มั๊ง

ไม่งั้นก็ลงวินโดว์ใหม่ ...ครับ

Admin กล่าวว่า...

หุหุ อยากจะบอกว่าเคยเจอว่าสาเหตุมาจาก UPS ครับ
แบตหมดเลยจ่ายไฟไม่เสถียร ถอดมาต่อตรง Com ไม่ Restart เองเลย
เลยเปลี่ยนแบตใหม่ ใช้ได้ปกติเลยครับ

Admin กล่าวว่า...

จะบอกตรงนี้ดีกว่าว่าทำใมคอมถึงรีสตาร์ท ส่วนวิธีแก้ไขให้นึกเอาเอง
--คอมพิวเตอร์พอเปิดสวิทช์ มันไม่เป็นแบบพัดลมที่ใช้อยู่นะ
สวิทช์เปิด--กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ชุดหนึ่งจะวิ่งเข้าไปสู่ระบบกระตุ้นให้อุปกรณ์ชุดหนึ่งทำการตรวจสอบทุกส่วนที่ทำให้เครื่องคอมของเราทำงาน---
มันทำตัวเหมือนยามเราดี ๆ นี้แหละ---ตรวจสอบไฟเลี้ยง ซีพียู --ตรวจสอบใบออส--ตรวจสอบไฟเลี้ยง 12 ไวลท์--5 โวลท์ หรือระบบไปต่ำอื่น ๆ --เมื่อมันเห็นว่า โอเค มันก็จะไปที่--รีเซ็ท--เริ่มบู๊ทเครื่อง----ตรงนี้จะไม่เกี่ยวกับวินโดว์
ส่วนนี้จะเป็นจอดำ-ขาว หรือจอเขียว-ดำ ก็ขึ้นกับการตั้งค่าสีในใบออส
ถ้ามันเริ่มบู๊ทแล้วได้จอสีฟ้า แล้ววนไปตั้งหลักใหม่----นั่นคืออาการของวินโดว์
ที่นี้คุณก็ลองพิจารณาดูว่ามันเสียในส่วนไหน?
ถ้าวนกลับที่ส่วนของใบออสให้เปฺิดไบออส--ลองไปเลือกที่--Set up default--อักษรจะคล้าย ๆ แบบนี้ละ ที่นั่น กด OK
แล้ว SAFE&EXIT-----Restart
มันอาจจะใช้ได้

แสดงความคิดเห็น